ปลูกกาแฟกลางแจ้ง
ต้นกาแฟ มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ การเติบโตและความนิยมในการปลูกจะแตกต่างกันออกไป ด้วยเพราะแต่ละสายพันธุ์จะมีความต้องการสารอาหารในดิน อุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้แต่ละสายพันธุ์มีที่มาและการเติบโตที่ต่างกัน รวมไปถึงวิธีการดูแลที่มีความแตกต่างเช่นกัน ที่ส่งผลต่อการออกผลผลิตก็คือการปลูกกาแฟกลางแจ้ง
การปลูกกาแฟเป็นการเกษตรที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องมีการดูแลเอาใจเป็นอย่างดีทุกขั้น ต้องมีการบำรุงรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และอย่างไรก็ตามแม้จะมีการดูแลใส่ใจในขั้นตอนการปลูกสักเพียงใด ผลผลิตที่ออกมาแม้จะมีคุณภาพสูง ได้ราคาดี แต่ก็ได้ผลผลิตในจำนวนน้อย จึงได้มีการทดลองเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของเมล็ดกาแฟตามเดิม การปลูกกาแฟกลางแจ้ง จึงกลายมาเป็นทางออกเพื่อการเพิ่มผลผลิตของชาวไร่กาแฟ
การปลูกกาแฟกลางแจ้ง เป็นการปลูกกาแฟแบบลงต้นกล้าที่ดินแปลงใหญ่ เพื่อให้ต้นกาแฟได้เติบโตอย่างเต็มที่ทำให้ผลผลิตของเมล็ดกาแฟมีมากขึ้น เพราะกิ่งและใบของต้นกาแฟสามารถเติบโตได้อย่างอิสระ แม้จะมีการตัดแต่งกิ่งจากชาวไร่ก็ตาม แต่ก็ยังสามารถเติบโตได้มากกว่าการปลูกในพื้นที่ร่ม และอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้ผลผลิตเติบโตได้มากกว่าก็คือแสงแดด แม้ว่าต้นกาแฟจะเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำมาก แต่การปลูกกาแฟกลางแจ้ง แสงแดดก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการการแตกใบและการเจริญเติบโตได้เช่นกัน
แต่สำหรับการปลูกกาแฟกลางแจ้ง อาจจะมีต้นทุนทีค่อนข้างสูงกว่าการปลูกในพื้นที่ร่ม ทั้งต้นทุนของการดูแลรักษา ต้นทุนของการรดน้ำ เมื่อมีแสงแดดก็ต้องรดน้ำอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการแห้งเฉา การใส่ปุ๋ย เพราะเมื่อที่ดินกว้างกว่า จะต้องเพื่อปริมาณของปุ๋ยสำหรับการบำรุง แต่แม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ผลผลิตที่ได้ก็มากขึ้นเช่นกัน
ปลูกกาแฟกลางแจ้ง ได้ผลผลิตที่มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการที่ต้นทุนสูงขึ้น และส่วนส่วนของคุณภาพ หากดูแลได้ไม่ทั่วถึงอย่างเต็มที่ อาจจะส่งผลให้คุณภาพของกาแฟที่ปลูกกลางแจ้งลดลงได้ แต่จะไม่แตกต่างจากผลผลิตจากการปลูกในร่มเท่าไหร่นัก ดังนั้นเรื่องของคุณภาพกาแฟ ไม่เพียงแค่ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกเท่านั้น แต่การเอาใจใส่และการดูแลก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
จากปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการทดลอง จึงได้มีการนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาประยุกต์และปรับปรุงให้การปลูกกาแฟกลางแจ้ง เพิ่มผลผลิตได้ตามต้องการและไม่ลดคุณภาพของกาแฟ ด้วยการทำการปลูกและดูแลแบบผสมผสาน คือจะมีทั้งการปลูกแบบในร่มที่ดูแลรักษาได้ง่าย และการปลูกแบบกลางแจ้งที่เพิ่มผลผลิตได้ โดยจะปลูกกาแฟกลางแจ้ง เพียง 40 – 42 % ของการปลูกกาแฟทั้งหมดเท่านั้น เพื่อให้เกษตรดูแลได้อย่างทั่วถึงโดยที่ต้นทุนก็จะไม่สูงเกินไปนักด้วย ผสานกับการปลูกใต้ร่มที่ต้นทุนต่ำกว่าแม้จะได้ผลผลิตน้อยกว่าแต่มีคุณภาพ และจะได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการปลูกกาแฟกลางแจ้ง ราว ๆ 20% นั่นเอง