เครื่องบดกาแฟค้าง
สำหรับเครื่องบดกาแฟทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ทุกประเภท ล้วนแล้วแต่ต้องมีการทำความสะอาดเป็นประจำ หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต้องมีการถอดอุปกรณ์ออกมาเช็คตรวจดู และทำความสะอาด เพราะเนื่องจากจะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องใช้ได้นาน และที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องการซ่อมและปัญหาที่ตามมาทีหลังอีกด้วย
โดยสาเหตุในร้านกาแฟที่พบเจอกันบ่อยมากสำหรับอุปกรณ์เครื่องทำกาแฟ ก็มี 7 ปัญหา ดังนี้
- น้ำกาแฟไม่ร้อน
- กาแฟไหลออกเร็ว
- กาแฟไม่มีครีมม่า
- กาแฟไหลออกช้าหรือไม่ไหล
- สตีมนมไม่ขึ้นฟอง
- กากกาแฟแฉะ และเหลว
- เครื่องกาแฟบดค้าง
หากมีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ก็จะไม่ทำเครื่องบด หรือเฟืองค้าง เพราะฉะนั้นจะมีขั้นตอนการทำความสะอาดง่ายๆ ดังนี้
หากเรามีการปรับความละเอียด- ความหยาบ : ที่เหมาะสมอยู่แล้ว ก่อนที่จะทำความสะดอาดให้นำปากกามาขีดไว้ เพราะจะได้ง่ายหลังจากการทำความสะอาดเสร็จ
ถอดเฟืองบดมาทำความสะอาด : โดยส่วนใหญ่จะมีวิธีการถอดเฟืองบด โดยการปรับไปทางด้านเข็มนาฬิกาจนสุดเกลียว หรือสำหรับบางตัวเครื่องที่มีปุ่มล็อค ให้กดปุ่มล็อคไว้ขณะที่หมุน หลังจากนั้นก็นำออกมาทำความสะอาดได้เลย
ทำความสะอาดเฟืองบด : โดยจะเริ่มจากส่วนบนที่ได้ถอดออกมาก่อนเลย โดยใช้แปรงหรือผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดกาแฟที่ค้างออกมาก่อน และใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้ปลายแหลม เขี่ยตามซอกชี้เฟืองให้สะอาด
การทำความสะอาดส่วนด้านล่าง : ก่อนอื่นให้นำตัวสปริง น็อต หรือตัวหมุน ออกจากเครื่องก่อน นำเครื่องดูดฝุ่น ดูดกาแฟที่ค้างอยู่ด้านในออกให้หมด ส่วนผงกาแฟที่ค้างแน่นใหน้ำไม้จิ้มฟัน หรือไม้ปลายแหลมเขี่ยออกมา
ประกอบทุกชิ้นส่วนกลับเข้าไป : เริ่มจากใส่เฟืองกลับที่เดิม ไขน็อตให้แน่น พร้อมใส่สปริงให้กลับเข้าที่ จากนั้นนำเฟืองบดขึ้นบนกลับไป ทำการเทจาระบีที่เกลียวด้านบน ระหว่างที่หมุนต้องไม่ให้เกิดการปีนเกลียว เพื่อป้องกันเฟืองเกิดการสีกันนั้นเอง
แต่อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ทุกชนิด ควรจะมีการทำความสะอาด และการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการซ่อมและปัญหาตามมาทีหลัง เพราะอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเดิม หรืออาจทำให้ร้ายแรงกว่านั้นคือ ต้องซื้อเครื่องอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งราคาของอุปกรณ์แต่ละชนิดก็มีราคาที่ไม่น้อยกันเลยทีเดียว หากมีการดูแลรักษาทำความสะอาดอย่างดี ก็จะไม่มีปัญหาที่พบเจอกันในปัจจุบันมากขนาดนี้ และอย่าลืมต้องมีการใส่ใจดูแลรักษาอุปกรณ์ให้มีการใช้งานได้ยาวนานที่สุด