เรื่องกาแฟล่าสุด

กาแฟโรบัสต้า สายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมและหารับประทานได้ง่าย

กาแฟโรบัสต้า สายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมและหารับประทานได้ง่าย เราอาจคุ้นชินกับชื่อสายพันธุ์กาแฟอาราบิก้าแต่ในความเป็นจริงแล้วในประเทศไทย

กาแฟโรบัสต้า สายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมและหารับประทานได้ง่าย

เราอาจคุ้นชินกับชื่อสายพันธุ์ กาแฟอาราบิก้า แต่ในความเป็นจริงแล้วในประเทศไทยนั้นสายพันธุ์ของกาแฟที่กินการผลิตกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ กาแฟอาราบิก้า แต่เป็น กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ต่างหาก ดังนั้นเราจึงจะเห็นกาแฟสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักผลิตมาจาก กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า นั่นเอง สำหรับใครที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์กาแฟหรือต้องการจะทำกาแฟดริปรับประทานเองแต่ไม่รู้ว่าควรเลือกใช้กาแฟสายพันธุ์ไหนดี

วันนี้เราก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าให้มากยิ่งขึ้นกัน โดยกาแฟสายพันธุ์ดังกล่าวจะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coffea anephora Pieere ex Froehner มันเป็นกาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนค่อนข้างสูงโดยเฉพาะหากเทียบกับ กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า ทำให้มันมีรสชาติที่ขมมากกว่าและมีความเข้มข้นมากกว่าอีกด้วย แต่ในส่วนของความหอมนั้นมันจะน้อยกว่า สายพันธุ์อาราบิก้า มันจึงได้รับความนิยมในการแปรรูปเป็นกาแฟกึ่งสำเร็จรูปมากกว่า โดยปกติแล้วในประเทศไทยนั้นมักจะนิยมปลูกในภาคใต้เป็นหลักรวมไปถึงในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม ลำต้นค่อนข้างสูงและสามารถทนทานต่อโรคได้เป็นอย่างดี ในประเทศไทยนั้น สายพันธุ์โรบัสต้า มีการปลูกกว่า 99 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แหล่งปลูกจะอยู่ในจังหวัดระนอง ชุมพร และสุราษฎร์

เมล็ดกาแฟโรบัสต้า ที่ดีนั้นได้มีการกำหนดโดยกรมการค้าภายใน ผ่านความเห็นชอบของกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้สามารถตีตลาดโลกได้โดยระบุไว้ว่าเมล็ดกาแฟนั้น จะต้องมีกลิ่นและสีตามธรรมชาติของการเป็นเมล็ดกาแฟ ต้องไม่ขึ้นรา ไม่มีผลกาแฟมาปะปน และไม่บูดเน่า แต่ละเมล็ดนั้นจะต้องมีความชื้นไม่เกิน 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยกเว้นให้มีข้อบกพร่องของเมล็ดกาแฟได้แต่ต้องไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์จากน้ำหนักโดยมีรายละเอียดประกอบไปด้วยเมล็ดกาแฟที่ซื้อขายโดยทั่วไปนั้นจะต้องไม่มีเมล็ดกาแฟที่กระเทาะเปลือกออกไม่หมด เมล็ดดำเป็นเมล็ดกาแฟสีดำที่มีความดำเกินครึ่งของเมล็ดโดยมีได้ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดหมดซึ่งเป็นเมล็ดที่ถูกเจาะเกิน 1 รูโดยจะมีได้ไม่เกิน 4% เมล็ดแตกคือเมล็ดที่มีขนาดเท่ากันหรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเมล็ดกาแฟทั้งหมดซึ่งจะมีได้ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดเสียซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูพรุนเนื่องจากหล่นโคนต้นทำให้มีความผิดปกติ โดยมีได้ไม่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้ายสิ่งเจือปนไม่ว่าจะเป็นเศษไม้ เปลือกกาแฟ เศษหินมีได้ไม่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นเราจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่ากาแฟโรบัสต้าที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยนั้นจะมีคุณภาพตามมาตรฐานของกรมการค้าภายในอย่างแน่นอน


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *