ดริปกาแฟ เพื่อรสชาติแท้ ของกาแฟสด
คนส่วนมากมักจะรู้จักกาแฟสดในรูปแบบของเครื่องชงแรงดันไอน้ำ กลั่นออกมาชงเป็นกาแฟสูตรต่างๆ
แต่รู้หรือไม่ว่ากาแฟสดนั้น ไม่ได้มีแค่เพียงการกลั่นกาแฟจากแรงดันไอน้ำเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่นที่ทำให้เราได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟสดแบบไม่เสียรสชาติ และไม่ต้องสูญเสียกลิ่นหอมของกาแฟด้วย
วิธีดังกล่าวเรียกว่าการดริป ซึ่งการดริปกาแฟนี้เป็นที่นิยมสำหรับคอกาแฟหลายท่าน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมในวงกว้างก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่ได้มีโอกาสลิ้มลองการดริปกาแฟแล้วล่ะก็ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางคนที่เลิกดื่มกาแฟแบบแรงดันไอน้ำไปเลยก็มี แต่นั่นก็สำหรับบางท่านที่มีความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ที่จะได้ลิ้มลองรสชาติของกาแฟดริป ที่มีรสชาติอ่อนกว่าเอสเพรสโซ่แรงดันไอน้ำ แต่จะได้คาเฟอีนเข้มข้นพอๆ กัน
ถ้าพูดถึงการดริปกาแฟนั้น จะมีความคล้ายคลึงกับการชงกาแฟโบราณ ซึ่งจะต้องตักกากกาแฟใส่ถุงผ้าแล้วเติมน้ำร้อนใส่ลงไป เพื่อกรองกาแฟ
แต่การดริปกาแฟนั้น จะต่างกันตรงที่ เราจะใช้เมล็ดกาแฟสดที่คั่วแล้ว นำมาบดให้ละเอียด เทใส่ถุงกรองซึ่งมักจะใช้ซองกระดาษสำหรับกรองผงกาแฟ หรือ ใช้เครื่องกรองสำหรับดริป แล้วเติมน้ำร้อนลงไป น้ำต้องไม่อุ่น แต่ต้องมีความร้อนเหมาะสม ปริมาณของน้ำต้องไม่มากเกินไป จนทำให้กาแฟมีรสจืดหรือรสเปรี้ยว เรื่องนี้สำคัญสำหรับการชงกาแฟสดทุกรูปแบบ เนื่องจากกาแฟสดนั้นมักจะใช้วิธีการชงจากการบดสดๆ ถ้าอุณหภูมิน้ำไม่เหมาะสมและปริมาณน้ำที่ใช้ชงมากเกินไป จะทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่ไม่ค่อยถูกใจมากนัก
สรุปแล้วกาแฟดริปก็คือผงกาแฟสดที่บดแล้วกลั่นจากถุงกรองกาแฟด้วยน้ำร้อนในอุณหภูมิและปริมาณที่เหมาะสมนั้นเอง
ส่วนอุณหภูมิน้ำที่ใช้ ส่วนมากการชงกาแฟร้อนจะใช้น้ำไม่เกิน 85-96 องศาเซลเซียส
ส่วนปริมาณของน้ำในการชงกาแฟนั้นจะชงคล้ายๆ กับการใช้แรงดันไอน้ำตามปกติ อย่างเช่น 1-2 ช็อตหรือปริมาณ 15 ถึง 20 กรัม ก็สามารถดริปกาแฟได้ประมาณ 1 แก้วกาแฟ ซึ่งการดริป กาแฟอาจจะไม่มีกฎตายตัวว่าต้องเติมน้ำในปริมาณที่เท่าไหร่ ซึ่งปริมาณที่พอดีก็ไม่น่าจะเกิน 250-300 ml. ซึ่งอาจต้องใช้น้ำมากกว่าแบบแรงดันนิดหน่อย เพราะการดริป กาแฟจะอมน้ำมากกว่านิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละคนด้วย คุณอาจจะใช้น้ำน้อยกว่านี้ได้หรืออาจจะใช้น้ำมากกว่านี้ได้อีกนิดหน่อยเท่านั้น