อุปกรณ์ดริปกาแฟ กระดาษกรอง
สำหรับอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการดริปกาแฟและเป็นส่วนที่สำคัญมากๆในการกรองรสชาติของกาแฟนั่นก็คือ “กระดาษกรอง” มักจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการดริปกาแฟทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดกลิ่นและทำความสะอาดของเมล็ดกาแฟ และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะมีวิธีการใช้งานควบคู่ไปกับตัว Dripper เพื่อให้เมล็ดกาแฟที่มีปฏิกิริยาถูกกับน้ำร้อนไหลผ่านตัว “กระดาษกรอง” และตัว Dripper ได้ดี
ปัจจุบันก็จะมีการแบ่งขนาดของตัว Dripper และมีการแบ่งประเภทของ “กระดาษกรอง” เมล็ดกาแฟ ให้มีลักษณะและรูปทรงเข้ากับตัว Dripper โดย “กระดาษกรอง” แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือแบบฟอกสีและไม่ฟอกสี โดยแบบที่ 1 จะเป็นการฟอกสีโดยมีลักษณะเป็นกระดาษสีขาว ที่สำคัญสามารถใช้ได้ทั้งแบบคลอรีนและแบบออกซิเจน โดยแบบที่ 1 จะไม่มีการส่งผลต่อรสชาติของเมล็ดกาแฟ และแบบที่ 2 เป็นการไม่ฟอกสีซึ่งจะมีลักษณะเป็นกระดาษสีน้ำตาลถือว่าเป็นกระดาษกรองที่มีการแปรรูปที่น้อยกว่าบางครั้งอาจจะทำให้มีกลิ่นกาแฟติดมาพร้อมกับกระดาษแต่จะมีวิธีการแก้ไขโดยการนำน้ำร้อนลวกกระดาษก่อนเพื่อจะไม่ให้มีกลิ่นกาแฟติดกับกระดาษ ในการดิฟทุกครั้ง
โดยจะมีการแบ่งชนิดของกระดาษกรองออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
- “กระดาษกรอง” เป็นรูปทรงกรวยปลายแหลม : โดยจะมีการเลือกขนาดให้สัมพันธ์กับตัว Dripper มีลักษณะ 2 แบบคือแบบเรียบ และแบบหยัก เป็นตัวช่วยให้อัตราการไหลของน้ำค่อนข้างคงที่
- “กระดาษกรอง” แบบหยัก : ที่มีการออกแบบมาให้ควบคู่กับการใช้ Dripper ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมหรือทรงกระบอก จุดเด่นของ “กระดาษกรอง” ที่ใช้แบบหยักจะช่วยให้เกิดช่องว่างทำให้อากาศสามารถไหลผ่านได้ดีขึ้น
- “กระดาษกรอง” ทรงกรวยปลายตัด :ได้ถูกออกแบบมาเหมาะกับการใช้ Dripper ที่มีลักษณะเป็นทรงคางหมูเป็นวิธีการระบายน้ำโดยผ่านรูเล็กๆ ทำให้การระบายน้ำเกิดการช้าลง
และที่สำคัญการเลือกใช้ “กระดาษกรอง” ต้องมีการศึกษาหรือทราบถึงประเภทของ Dripper หรือตัวอุปกรณ์อื่นๆที่เป็นตัวการดริปกาแฟ ว่ามีการใช้งานอย่างไร และตัว “กระดาษกรอง” เหมาะกับทรง Dripper ประเภทไหน เพราะอุปกรณ์ทุกส่วน มักจะมีความสำคัญอย่างมากในการดริปกาแฟ เพราะนอกจากจะได้กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟที่แท้จริงแล้ว ยังได้รสชาติของกาแฟที่มีการไหลผ่านจากกระดาษกรองแบบกลมกล่อมอีกด้วย
สุดท้ายแล้วอุปกรณ์ทุกประเภทที่ใช้ในการดริปกาแฟล้วนแล้วจะมีวิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน หากใครที่สนใจและชื่นชอบรักในการดริปกาแฟที่แท้จริง ต้องมีการศึกษาและทราบถึงวิธีการใช้ วิธีการเก็บ เพื่อให้อุปกรณ์ที่นำมาดริปกาแฟให้มีอายุยืนนานในการใช้งานได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาในการที่ต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ในการทำดริปกาแฟใหม่ทุกครั้ง