รวมรายชื่อโรคของต้นกาแฟที่คนปลูกกาแฟเองอาจต้องเจอ
ย้อนกลับไปเมื่อซักประมาณ 5 ปีที่แล้วคนส่วนใหญ่นั้นก็ยังคงซื้อ กาแฟสด หรือดื่ม กาแฟสำเร็จ รูปมากกว่าการที่จะมานั่งทำกาแฟเองเนื่องจากอุปกรณ์มีราคาที่ค่อนข้างสูงแถมยังมีขั้นตอนที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน แต่หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 หลายคนก็เริ่มมีเวลาอยู่บ้านมากยิ่งขึ้นทำให้การจิบกาแฟดื่มเองนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นไปด้วย คนที่ชื่นชอบกาแฟเป็นอย่างมากบางคนนั้นถึงขั้น ปลูกต้นกาแฟ เพื่อใช้เมล็ดกาแฟของตัวเองเลยก็มีเช่นเดียวกันซึ่งมันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับเราได้อีกมากเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกต้นกาแฟ นั้นนอกจากจะไม่ง่ายแล้วมันยังมีโรคภัยอีกมากมายเลยทีเดียวที่มักจะเกิดขึ้นกับ ต้นกาแฟ โดยโรคที่เราอาจจะได้พบหากปลูกกาแฟเองนั้นจะมีอะไรบ้างวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน
- โรคราสนิม มันเป็นโรคเชื้อราที่มักจะระบาดในช่วงฤดูฝน อาการของโรคเราจะพบว่าต้นกาแฟนั้นจะถูกทำลาย เราจะพบจุดสีเหลืองอยู่บริเวณใต้ใบ จากนั้นใบของเราก็จะกลายเป็นสีเหลืองปนสีส้มและด้านใต้ของใบไม้จะมีสปอร์เชื้อราติดอยู่ หลังจากนั้นมันก็จะร่วงโรยลงไปในที่สุด วิธีการกำจัดและป้องกันคือเราต้องกำจัดวัชพืชให้สะอาดอยู่เสมอ คอยตัดแต่งกิ่งให้มีความโลกโปร่งสบาย นำเอาใบกาแฟที่ป่วยเป็นโรคไปเผาไฟให้หมด เลือกสายพันธุ์ที่มีความต้านทานโรค และใช้ยากัน เชื้อราอย่าง Coupercide
- โรคใบจุด เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดจาก เชื้อราสายพันธุ์ Cercospora coffeicola Berck & Cooke ส่วนใหญ่แล้วมันมักจะเกิดขึ้นกับต้นกล้าที่อยู่ในแปลงเพาะชำ อาการของโรคที่พบนั้นเราจะเห็นว่าบนใบของกาแฟจะมีจุดสีน้ำตาลขนาดเล็กอยู่ หลังจากนั้นมันก็จะแผ่ออกมากลายเป็นจุดขนาดใหญ่โดยตรงกลางนั้นจะเป็นจุดสีเทา วิธีการป้องกันและกำจัดคือทำให้แปลงเพาะชำมีร่มเงาที่เพียงพอ คอยใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างสม่ำเสมอ และพ่นยากันเชื้อราเป็นประจำ 2-3 อาทิตย์ในแปลงเพาะชำ
- โรคโคนเน่า เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราเช่นเดียวกันโดยเป็น เชื้อราสายพันธุ์ Rhizocotonia spp., Pythium spp. โดยโรคนี้มักจะเกิดขึ้นกับต้นกล้าในแปลงเพาะชำที่ค่อนข้างอ่อน เราจะพบว่าบริเวณโคนที่ใกล้กับผิวดินจะมีอาการเน่าและมันก็จะตายลงไปในที่สุด วิธีการป้องกันและกำจัดคือพยายามปรับดินให้สามารถระบายน้ำได้เป็นอย่างดี คอยปรับร่มเงาไม่ให้ทึบหน้าจนเกินไป ช่วยปรับสภาพดินให้มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสมอยู่เสมอโดยไม่ควรให้เป็นโกรธมากจนเกินไป และคอยใช้ยากันเชื้อราฉีดพ่นเป็นประจำทุก 7 วันจนกว่าโรคดังกล่าวจะหายไป
