ดริปกาแฟแล้วเป็นโคลน
หลายคนคงมีคำถามและข้อสงสัยว่า “ดริปกาแฟแล้วเป็นโคลน” มีความหมายว่าอย่างไร ความหมายที่แท้จริงแล้วนั่นคือ ผงกาแฟ หรือกากกาแฟที่ได้มีการบดละเอียดและมีการทำปฏิกิริยากับน้ำร้อน มีการไหลลงสู่เหยือกแก้วกาแฟ พร้อมผงและกาก รวมถึงการไหลวนของน้ำร้อน ที่ทำให้เกิดเป็นเศษตะกอนและเป็นลักษณะรูปโคลนดันขึ้นมา และทำให้รสชาติขมกว่าการดริปกาแฟแบบปกติทั่วไป จึงได้กลายเป็นที่มาของคำว่า “ดริปกาแฟเป็นโคลน”
สำหรับการดริปกาแฟของมือใหม่ทุกคน มักจะเจอและประสบกับปัญหาแบบนี้กันเป็นจำนวนมาก เพราะทั้งอุปกรณ์ ส่วนผสม วิธีการทำ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สัมพันธ์และใช้เวลาเป็นตัวกำหนดทุกขั้นตอน เช่นเดียวกับการดริปกาแฟ หลังจากที่มีการบดกาแฟอย่างละเอียดแล้ว ก็จะเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในการนำน้ำร้อน มาเทลงบนผงกาแฟที่อยู่ข้างในดริปเปอร์ จากนั้นเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการบังคับและกำหนดเวลา เพื่อไม่ให้การดริปกาแฟมีลักษณะเป็นโคลนคือ จะมีการจำกัดและกำหนดเวลา โดยจะมีการนำน้ำร้อนมาเทวนเป็นรูปก้นหอยภายในระยะเวลาที่กำหนดคือ 40 วินาที/3ครั้ง และ 30 วินาที/2 ครั้ง โดยจะมีการแบ่งช่วงในการเทน้ำร้อนวนจนครบตามที่กำหนดถึง 5 ครั้ง ถึงจะได้รสชาติกาแฟที่ออกมาในลักษณะรสชาติปกติ ไม่เป็นผงตะกอน ไม่เป็นลักษณะโคลน หรือมีรสชาติที่ขม ในปัจจุบันได้มีการคิดค้นและศึกษาวิธีการรูปแบบต่างๆของ “การดริปกาแฟเป็นโคลน” เช่น อาจจะมีการเพิ่มอุปกรณ์บางส่วนเข้าไป เพื่อที่จะทำให้รสชาติหวานกว่าปกติและไม่ขม หรือนำอุปกรณ์บางส่วนที่มีการสกัดและแยกผงกาแฟออกมา ไม่ให้มีรสชาติที่ขม ซึ่งปัจจุบันได้มีหลากหลายขั้นตอนในการทำอย่างมาก และสำหรับมือใหม่ทุกคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจ หรือเรื่องน่าตกใจอะไรสำหรับคนที่ดริปกาแฟเป็นลักษณะโคลน
สำหรับปัจจัยเบื้องต้นในการควบคุมการดริปกาแฟไม่ให้มีลักษณะเป็นโคลนมีดังนี้
- น้ำ : ต้องสะอาด ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น ที่สำคัญอุณหภูมิน้ำที่ใช้งานต้องขึ้นอยู่กับชนิดคั่วของเมล็ดกาแฟ ถ้าคั่วอ่อนก็ต้องใช้อุณหภูมิที่สูง โดยอุณภูมิจะเริ่มตั้งแต่ที่ 89 จนไปถึง 94 องศาเซลเซียส
- การบดเมล็ดกาแฟ : ทุกครั้งที่มีการบดกาแฟควรจะบดให้มีความละเอียดสม่ำเสมอ
- การดริป : ก่อนจะนำน้ำร้อนเทลงไปควรเขย่าเบาๆ เพื่อให้ผงกาแฟมีลักษณะแบนราบให้การสกัดกาแฟเป็นไปอย่างทั่วถึงไม่ใช่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมากจนเกินไป ส่วนการเทน้ำแต่ละรอบ ค่อยๆเทน้ำให้ไหลผ่านกาแฟที่บดแล้ว เป็นลักษณะวงก้นหอย โดยเริ่มจากตรงกลางแล้วหมุนออกมาด้านนอก โดยห้ามน้ำล้นขอบกาแฟ และจะมีการแบ่งรอบในการเทน้ำวนเริ่มที่ 40-45 วินาที และสิ้นสุดที่รอบละ 30 วินาที ที่สำคัญการบดกาแฟไม่ควรจะบดให้ละเอียดจนเกินไปเพราะจะเกิดเป็นการดริปกาแฟลักษณะเป็นโคลน