เรื่องกาแฟล่าสุด

การชงกาแฟแบบ French press

การชงกาแฟแบบ French press

การชงกาแฟแบบ French press

 

            ปกติเรามักจะเห็นแต่การชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟแบบแรงดันไอน้ำ

            แต่จะมีวิธีการชงกาแฟอีกแบบหนึ่งที่สามารถทำให้เราได้กาแฟที่เข้มข้น เพียว ๆ  เรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบของคอกาแฟมากๆเลยทีเดียว  ซึ่งการชงกาแฟแบบนี้จะไม่ใช้แรงดันไอน้ำแต่ใช้เพียงน้ำร้อนเท่านั้น

            หลายคนคงคิดว่าการชงกาแฟที่กำลังจะเอ่ยถึง  เป็นการชงกาแฟแบบการดริป ความจริงแล้วที่จะเอ่ยถึงในวันนี้  จะมีวิธีการชงที่คล้ายคลึงกันนั่นคือใช้ผงกาแฟและน้ำร้อนแต่จะไม่ใช้ถุงกรองกากกาแฟ 

            การชงกาแฟ ด้วยกากกาแฟและน้ำร้อน ที่ไม่ต้องใช้ถุงกรอง  เรียกว่าการชงกาแฟแบบ french press  ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1852

            ซึ่งการชงกาแฟแบบ french press อาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์ในการชงกาแฟเฉพาะเจาะจง  นั่นก็คือแก้วชงกาแฟสำหรับการชงกาแฟแบบ french press โดยเฉพาะ

            ลักษณะของแก้วชงกาแฟแบบ french press นั้น  ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแก้วปกติ  แต่ว่าจะมีตัวกดกาแฟ

            วิธีการชงกาแฟ French press นั้นก็คือจะทำการบดกาแฟ  แล้วนำกาแฟบดนั้นใส่ลงไปในแก้วชงกาแฟ French press แล้วเทน้ำร้อนจัดตามลงไปช้า  ๆ  ใช้ไม้พายเล็กหรือช้อนคนเบา ๆ  หลังจากนั้น  ทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 4 นาที เมื่อครบเวลา จากนั้นให้ทำการกดกากกาแฟลงไปด้านล่างอย่างช้า ๆ ปราณีต  เทน้ำกาแฟที่ได้  ลงใส่แก้วกาแฟ  หลังจากนั้นปรุงตามชอบ แค่นี้ถือว่าเป็นอันเสร็จการชงกาแฟแบบ French press  ก็จะได้กาแฟสด รสเข้มข้นถึงใจและถูกใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่กรองจากน้ำร้อน ซึ่งการชงวิธีนี้ก็ใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น  หากเทียบกับการชงแบบแรงดันไอน้ำ

            การชงกาแฟแบบ French press ไม่ควรปล่อยให้กาแฟทำปฏิกิริยากับน้ำร้อนนานเกินไปเพราะจะทำให้กาแฟมีรสชาติเข้ม และขมจัดเกินความพอดี

การชงกาแฟแบบ French press

สูตรการชงกาแฟแบบ French press นั้นส่วนใหญ่มักจะใช้สูตรดังนี้

ใช้เมล็ดกาแฟ  1 กรัม ต่อน้ำ 17 มล.

ดังนั้นสำหรับแก้ว French press 500 ML ก็จะใช้กาแฟอยู่ที่ประมาณ 30 กรัม  (กรุณาบวกลบสัดส่วนในปริมาณที่คุณต้องการชง)

น้ำร้อนที่ใช้ มักใช้อุณหภูมิ 80-98 องศาเซลเซียส

 

            แต่อย่างไรก็ดีหากผู้ดื่มมีสูตรในใจที่ชื่นชอบมากกว่า  ก็สามารถทำตามสูตรของตนเองได้  เพราะรสชาติกาแฟควรทำในแบบของผู้ที่ชื่นชอบ   เนื่องจากรสชาติของกาแฟควรจะขึ้นอยู่กับระดับความชื่นชอบของผู้ชงและผู้ดื่มกาแฟเป็นหลัก

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *