รีวิวเครื่องคั่วกาแฟรุ่น HD 100
ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อให้กาแฟของตนเองนั้นมีความโดดเด่นและได้รับความสนใจจากลูกค้านั้นจำเป็นจะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นการที่เจ้าของร้านนั้นไปเลือกเมล็ดกาแฟด้วยตนเองเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ที่ดีที่สุด ทางร้านนั้นมีการนำเอาเมล็ดกาแฟมาคั่วและบดเองด้วยสูตรเฉพาะเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่สามารถหาได้จากร้านอื่น ด้วยเหตุนี้ทำให้ร้านกาแฟนั้นจำเป็นจะต้องแบกรับต้นทุนของอุปกรณ์ในการผลิตกาแฟในแต่ละแก้วที่ค่อนข้างสูง ส่งผลต่อราคาของกาแฟที่แพงขึ้นบางร้านนั้นถึงแก้วละหลักร้อยเดียว ทำให้เป็นการลดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าลงเนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงนั้นต้องยอมรับว่ามีไม่มากนัก
ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำเครื่องคั่วกาแฟเชิงพาณิชย์ที่สามารถควบกาแฟได้ทุกครั้งละ 2 กิโลกรัมแต่มีราคาถูกอยู่ที่หลักพันเท่านั้น นั่นก็คือเครื่องคั่วกาแฟรุ่น HD-100 ที่มาในราคา 5,200 บาท แม้ว่ามันจะไม่มีราคาถึงหลักแสนเหมือนเครื่องคั่วกาแฟรุ่นอื่นๆ แต่มันก็สามารถควบกาแฟออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน โดยตัวเครื่องนั้นทำมาจากสแตนเลสที่มีความแข็งแรงทนทานทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหลายปี น้ำหนักตัวเครื่องนั้นก็เพียงแค่ 8.3 กิโลกรัมเท่านั้น สามารถทำการจุดกาแฟได้ถึง 1.5 กิโลกรัม 12 กิโลกรัมหรือเป็นจำนวน 9 ลิตร โดยใช้เวลาในการควบเพียงแค่ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
เครื่องคั่วกาแฟรุ่น HD-100 ไม่เพียงแต่ใช้งานในการคั่วกาแฟได้เท่านั้นแต่ยังใช้งานในการควบเมล็ดอื่นๆได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกาลัด ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดต่างๆ และการอบผลไม้แห้งและผลไม้เปียก มันจึงเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เรานั้นสามารถทำรายได้มากกว่า 1 ทาง ด้วยราคาไม่ถึง 10,000 บาทมันจึงเป็นอุปกรณ์ที่มีความผูกค่าเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นประสิทธิภาพในการทำงานนั้นยังสามารถทำได้ยอดเยี่ยมโดยอุณหภูมิที่ใช้ในการควบนั้นสามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่ 50 ถึง 200 องศาเซลเซียส ตัวเครื่องจะทำการหมุนอัตโนมัติเพื่อให้แต่ละเมล็ดของกาแฟนั้นได้รับความร้อนเท่าๆ กัน ช่วยลดโอกาสที่เมล็ดกาแฟนั้นจะเข้มจนเกินไปเฉพาะบางส่วน วิธีใช้เพียงแค่วางเครื่องดังกล่าวบนเตาแก๊ส จากนั้นก็เสียบปลั๊กเพื่อให้มอเตอร์ทำงานทำ ใส่เมล็ดกาแฟเข้าไปข้างในแล้วทำการเปิดสวิตช์เครื่องก็จะทำการเริ่มหมุน จากนั้นให้ทำการเปิดแก๊สเท่านี้กาแฟก็จะถูกขั้วโดยอัตโนมัติ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานนั้นจะต้องทำการตรวจเช็คหลังการเปิดเตาแก๊สแล้วว่าได้ตามที่ต้องการแล้วหรือไม่
