วิธีทำ อเมริกาโน่
ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มกาแฟที่เหมาะกับสายสุขภาพตามความนิยมของผู้คนในยุคนี้ ก็ต้องนึกถึงเมนูอเมริกาโน่ เป็นเมนูกาแฟจากเมล็ดกาแฟที่มีการคั่วบด ผ่านการดูดซึมกาแฟของน้ำร้อนแล้วนำมาเป็นผสมน้ำอีกครั้งหนึ่ง เป็นเมนูกาแฟที่ใช้เพียงแค่กาแฟ Espresso Shot ผสมน้ำร้อนเท่านั้น จึงเป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพเพราะไม่มีน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม และกาแฟดำจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง เพราะใยอาหาจากตัวกาแฟ
กาแฟที่เหมาะกับการนำมาทำอเมริกาโน่คือ กาแฟที่มีการคั่วบดแบบละเอียด เพื่อให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟที่เข้มข้น แต่สำหรับความเข้มของการคั่วสามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน แต่ที่เหมาะและได้รสชาติกำลังดีคือคั่วแบบกลาง เพราะจะไม่มีกลิ่นไหม้ของกาแฟเมื่อนำมาทำเครื่องดื่ม
วิธีการทำอเมริกาโน่ แม้จะมีขั้นตอนอยู่ไม่มากนัก แต่ในแต่ละขั้นตอนจะส่งผลต่อรสชาติและความเข้มข้นของกาแฟทั้งสิ้น
- การบดเมล็ดกาแฟจะเลือกบดแบบละเอียด เพื่อให้ได้รสชาติของ Espresso Shot ที่เข้มข้นเต็มรสของกาแฟ
- จากนั้นนำกาแฟที่บดใส่ลงในก้านชงประมาณ ¾ ของก้านแล้วทำการแสตมป์หรือการกดกาแฟให้แน่น โดยกะน้ำหนักแค่พอประมาณ หากยิ่งกดด้วยน้ำหนักมากจะยิ่งทำให้กาแฟเข้ม น้ำไหลผ่านได้ช้า อาจจะส่งผลให้กาแฟเกิดกลิ่นไหม้ได้
- จากนั้นนำก้านส่งใส่เข้าในเครื่องกาแฟ แล้วกดปุ่มสำหรับ Espresso 1 Shot
- ระหว่างรอให้น้ำกาแฟไหลออกมาเป็น Espresso ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 14 – 30 วินาทีเท่านั้น ไม่ควรเกินจากนี้ เพราะอาจจะทำให้กาแฟเสียรสชาติได้ ให้เปิดน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 90 – 110 องศาใส่ในเหยือก โดยปริมาณจะเทียบเท่ากับระยะของน้ำกาแฟที่ไหลออกมา ในกรณีเป็นการเสิร์ฟแบบอเมริกาโน่ร้อน แต่หากเป็นอเมริกาโน่เย็นก็จะเป็นน้ำเย็นผสมน้ำแข็งในปริมาณที่พอดีกับแก้วเสิร์ฟ
- จากนั้นเตรียมแก้วสำหรับเสิร์ฟอเมริกาโน่แบบร้อน แล้วนำ Espresso Shot และน้ำร้อน เติมลงในแก้วพร้อมกัน การเทส่วนผสมแบบร้อนพร้อมกันจะทำให้น้ำร้อนและ Espresso Shot เข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องคน จะทำให้ไม่ต้องสูญเสียครีมม่าด้านบนไป เมื่อผสมลงในแก้มพร้อมกันแล้วสามารถจัดเสิร์ฟได้เลย
- แต่หาเป็นอเมริกาโน่แบบเย็นจะเป็นการผสมน้ำและน้ำแข็งให้เข้ากันก่อน แล้วเติมน้ำเย็นที่ได้ลงในแก้ว จากนั้นจึงเติม Espresso Shot ลงไปในแก้ว ก่อนการจัดเสิร์ฟ
การชงอเมริกาโน่ สามารถเลือกปรับปริมาณความเข้มของ Espresso Shot ได้ตามต้องการหรือสามารถเลือกจำนวน 2 ช็อตก็ได้เช่นกันแต่จะได้ปริมาณความเข้มข้นของกาแฟที่น้อยลงเพราะใช้ปริมาณน้ำที่มากขึ้น และสำหรับท่านใดที่ชอบความหวานในกาแฟสามารถเลือกผสมไซรัปเพิ่มได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้งเพื่อรสสัมผัสที่แปลกใหม่ได้