เปลี่ยนกาแฟแบบเดิมๆ ให้มีรสชาติมากขึ้นกับ สูตรการชงกาแฟเกรปฟรุ๊ต
เปลี่ยนกาแฟแบบเดิมๆ ให้มีรสชาติมากขึ้นกับ สูตรการชงกาแฟเกรปฟรุ๊ต หนึ่งในปัญหา ที่ผู้ชื่นชอบการดื่มกาแฟหลายๆคน ต้องไปสักพบเจอกันอยู่เสมอ นั่นก็คือ ปริมาณของแคลอรี่ที่สูงมาก ส่งผลให้ น้ำหนักตัวและความอ้วนเพิ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสำหรับคอกาแฟคนไหน ที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เช่นกัน เรามีแนวทางที่จะช่วยให้น้ำหนักสามารถลดลงได้โดยที่ยังดื่มกาแฟได้ทุกวันเช่นเดิม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณแคลอรี่จากน้ำตาล นม วิปครีม หรือครีมเทียมอีกต่อไป กับ สูตรกาแฟผสมน้ำผลไม้ อย่าง เกรปฟรุ๊ต นั่นเอง ซึ่งรับรองได้เลยว่านอกจากจะ ช่วยให้ดื่มกาแฟได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความอ้วนแล้ว ยังทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติ ที่ทั้งแปลกใหม่และสดชื่น จากการผสมผสานอย่างลงตัวของสูตรกาแฟผลไม้ ชนิดนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ การชงกาแฟกับน้ำผลไม้ เกรปฟรุ๊ต นั้น ยังถือเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ มีกระบวนการไม่ยุ่งยากซับซ้อน อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ส่วนประกอบมากมาย แค่มีน้ำแข็ง ไซรัป Grapefruit และ กาแฟดำ เท่านั้น ก็สามารถสร้างให้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย ทั้งนี้สำหรับใครที่ยังไม่เคยลอง กาแฟผลไม้สูตรนี้แล้วล่ะก็ หากอยากรู้ว่า กาแฟผสมอะไรอร่อย หรือ กาแฟ ผสม อะไรได้บ้าง ให้ลองนำน้ำผลไม้อย่างเกรปฟรุ๊ตมาผสมดู รับรองได้เลยว่าจะไม่ผิดหวังกับสูตรกาแฟสูตรนี้อย่างแน่นอน
ส่วนผสมที่ต้องมี สำหรับสูตรการชงกาแฟเกรปฟรุ๊ต
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม ในสูตรการชงกาแฟ ผสมกับเกรปฟรุ๊ต โดยสัดส่วนสำหรับแก้ว 16 ออนซ์ นั้นมีทั้งหมด ดังนี้
- เกรปฟรุ๊ตไซรัป ประมาณ 1 ออนซ์ หรือ 30 – 35ml
- น้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง ประมาณ 3 ออนซ์ หรือ 90 ml
- เนื้อเกรปฟรุ๊ต ใช้ประมาณ 1 ผล
- กาแฟ 2 ช๊อต หรือ ประมาณ 60 ml โดยสามารถใช้ได้ทั้งกาแฟสด กาแฟขวดสำเร็จรูป และกาแฟผงแบบชงกับน้ำร้อน
- น้ำแข็งก้อนเล็ก สัดส่วนประมาณ 1 แก้ว
ขั้นตอนและวิธีการทำ สูตรการชงกาแฟ เกรปฟรุ๊ต
สำหรับวิธีการทำ หรือ ชง เมนูกาแฟผลไม้ เกรปฟรุ๊ต นั้น สามารถทำได้ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผสมไซรัปรสเกรปฟรุ๊ต 30 ml ลงในน้ำเปล่า 90 ml โดยในขั้นตอนนี้ ใครที่ต้องการความซ่า สามารถเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นโซดาได้ ใช้ในปริมาณ 90 ml เท่ากัน
- คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทั้งนี้ ผู้อ่านสามารถ เพิ่มหรือลดสัดส่วนของ ไซรัปเกรปฟุต และ น้ำเปล่า ตามความชอบ หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นมากขึ้น ก็สามารถเพิ่มปริมาณของ เกรปฟรุ๊ตไซรัป ลงไปได้ แต่หากต้องการให้รสชาติของ เกรปฟรุ๊ต เจือจางลง ก็เพียงแค่เพิ่มปริมาณของน้ำเปล่าลงไปนั่นเอง
- เตรียมกาแฟให้ได้ปริมาณ 2 ออนซ์ หรือ 60 ml โดยสามารถใช้ได้ทั้งกาแฟสด expresso ช๊อต, กาแฟอเมริกาโน่ขวดสำเร็จรูป และ กาแฟผงสำหรับชง ที่มีขายอยู่ทั่วไป
- แกะเนื้อเกรปฟรุ๊ตเป็นชิ้นเล็กๆในภาชนะเตรียมไว้
- นำเนื้อเกรปฟรุ๊ตที่แกะ เป็นชิ้น เรียบร้อยแล้วใสลงไป ในน้ำเกรปฟรุ๊ต ที่ผสมไว้ก่อนหน้านี้
- เทน้ำเกรปฟรุ๊ต ที่ผสมกับเนื้อเกรปฟรุ๊ต ดีแล้ว ใส่ลงในแก้วขนาด 16 ออนซ์ โดยการปริมาณประมาณ 100 – 120 ml
- ค่อยๆใส่น้ำแข็งลงไป ให้ได้ระดับที่ต้องการ โดย สัดส่วนที่เหมาะสมนั้น สามารถสังเกต ได้จากระดับน้ำในแก้ว มันจะขึ้นมาอยู่ 8/10 ของแก้ว
- นำกาแฟ ที่เตรียมไว้ในปริมาณ 2 ออนซ์ หรือ 60 ml ค่อยๆเทลาดลงไปด้านบนสุดของแก้ว เพื่อให้ ชั้นของเครื่องดื่มทั้ง 2 ชนิด แยกกันอย่างสวยงามและน่าทาน
- จัดวางตกแต่งด้านบนของเครื่องดื่ม ด้วย ผลเกรปฟรุ๊ตหั่นเป็นชิ้นบางๆ หรือจะท็อปปิ้งด้วยเนื้อเกรปฟรุ๊ตชิ้นเล็กๆด้านบนของเครื่องดื่ม ก็สามารถเลือกตกแต่งได้ตามความต้องการ
สำหรับ สูตรการชงกาแฟเกรปฟรุ๊ต นั้น สามารถทำได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนู Espresso มอคค่า คาปูชิโน่ ลาเต้ และอเมริกาโน่ เนื่องจากเกรปฟรุ๊ต ถือเป็นผลไม้ที่ไม่มีรสชาติอร่อย และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน เมื่อนำมาผสมใส่ลงไปในเครื่องดื่มอย่างกาแฟแล้ว ทำให้เกิดรสชาติและความหอมหวานที่แปลกใหม่ จนกลายมาเป็นเมนูโปรดที่อยู่ในใจของ ทั้งคนชอบน้ำผลไม้และกาแฟได้อย่างไม่ยากเย็น
ทั้งนี้ สำหรับการดื่ม เมนูกาแฟผสมน้ำ เกรปฟรุ๊ต สูตรที่เรานำมาฝากกันนี้ ผู้อ่านสามารถดื่มได้ ทั้งแบบที่คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีก่อน เพื่อให้รสชาติของกาแฟนั้นมีความ สดชื่น แปลกใหม่ และแฝงไปด้วยความหอมหวานจากน้ำผลไม้อย่างเกรปฟรุ๊ต หรือจะดื่มแบบ การใช้หลอดค่อยๆละเอียดชิม จากเครื่องดื่มชั้นล่างมาชั้นบน เพื่อปล่อยให้ส่วนผสมค่อยๆรวมกัน จนมีรสชาติที่เปลี่ยนไปทีละน้อย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดื่ม กาแฟเกรปฟรุ๊ต ที่อร่อยและสร้างความสดชื่นได้ ไม่แพ้เช่นกัน